ความพร้อมของทั้งสองทีม
เชลซี น่าจะมีไอเดอร์ กุดยอห์นเซ่น กลับมาอยู่ในทีมอีกครั้งหลังจากที่พลาดการลงสนามในเกมรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเนื่องจากอาการป่วย
นอกจากนี้จะได้มานิเช่ กลับมาหลังจากที่พ้นโทษแบนสามนัด ในขณะที่ปีเตอร์ เช็ค น่าจะได้กลับมาเฝ้าเสาให้ทีมอีกครั้ง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กาเบรียล ไฮน์เซ่ ต้องยังรอเช็คความฟิตอีกครั้งว่าจะสามารถร่วมทีมไปเยือนสแตมฟอร์ด บริดจ์ ได้หรือไม่หลังจากที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ขาหนีบจากการลงเล่นให้กับทีมสำรองเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทางด้านหลุยส์ ซาฮา พร้อมแล้วที่จะกลับมาแย่งตำแหน่งตัวจริงกับรุด ฟาน นิสเตลรอย อีกครั้งหลังจากที่หายจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าเรียบร้อยแล้ว
รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม
เชลซี ปีเตอร์ เช็ค, คาร์โรล์ คูดิชินี่, เปาโล แฟไรรา, ริคาร์โด้ คาวัลโญ่, จอห์น เทอร์รี่, โรเบิร์ต ฮูท, อาซิเย เดล ออร์โน, วิลเลียม กัลลาส, โคล้ด มาเกเลเล่, แฟรงค์ แลมพาร์ด, มิเกล เอสเซียง, เฌเรเมี่, มานิเช่, เดเมียน ดัฟฟ์, โจ โคล, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์, อาเยน รอบเบน, ดิดิเย่, ดรอกบา, เฮอร์นาน เครสโป
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เอดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, ทิม ฮาวเวิร์ด, แกรี่ เนวิลล์, เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมานย่า วิดิช, มิเกล ซิลแวสตร์, ปาทริซ เอวร่า, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ไรอัน กิ๊กส์, จอห์น โอเชีย, คีแรน ริชาร์ดสัน, ปาร์ค จี ซอง, เวย์น รูนี่ย์, รุด ฟาน นิสเตลรอย, หลุยส์ ซาฮา, จูเซ็ปเป้ รอสซี่, เคราร์ด ปีเก้
บทสัมภาษณ์ก่อนเกม
โจ โคล
“เรามีช่วงเวลาที่ดีมากในการฝึกซ้อมอาทิตย์นี้ แล้วเราก็ทำงานกันหนักมากๆ ด้วย เรื่องเมื่อเสาร์ที่แล้วมันจบไปแล้ว สิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้ก็คือการเดินหน้าเพื่อคว้าถ้วยมาให้ได้”
“ผมมีความสุขกับการฝึกซ้อมตลอดเวลาและทุกๆ คนก็ดูจะไปได้สวยเลยทีเดียว นัดนี้จะเป็นนัดที่สำคัญมากในประวัติศาสตร์ของเชลซี เลยก็ว่าได้”
“ทุกๆ คนอยากลงเล่นในนัดนี้ แต่ทุกอย่างมันก็ขึ้นอยู่กับผู้จัดการทีมว่าจะจัดใครลงสนามให้ได้ทีมทีเหมาะสมที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้”
ริโอ เฟอร์ดินานด์
“เรารู้ว่าฤดูกาลหน้านี้เราต้องเริ่มต้นให้ดีกว่านี้ แต่ก่อนที่จะทำอย่างนั้น เราต้องมั่นใจให้ได้ก่อนว่าเราจะจบฤดูกาลนี้ได้อย่างสวยงาม”
“เกมวันเสาร์จะเป็นเกมที่หนักมากสำหรับเรา พวกเขากำลังพยายามที่จะคว้าแชมป์ลีก ให้ได้ในวันนั้น แต่มันก็ขึ้นอยู่กับเราที่เราต้องพยายามยื้อเวลาให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”
“พวกเขามีฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวามากในฤดูกาลนี้ เราต้องยอมเราเลย ที่จริงเราควรจะสร้างความกดดันให้เชลซี ได้มากกว่านี้ถ้าเราไม่พลาดเองในเกมที่พบกับซันเดอร์แลนด์ ซึ่งเป็นสิ่งทีไม่สมควรพลาดจริงๆ”
ข้อมูลของทั้งสองทีม
เชลซี ลงเล่นเกมนี้ด้วยความมุ่งมั่นที่จะคว้าแชมป์ให้ได้ เนื่องจากพวกเขาต้องการอีกเพียงแค่ 1 คะแนนเท่านั้นก็จะสามารถเป็นแชมป์ได้อย่างเต็มตัว แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ลงเล่นในเกมนี้พร้อมกับความผิดหวัง หลังจากที่โอกาสในการคว้าดับเบิลแชมป์ครั้งแรกในประวัติศาสตร์พังทลายลงหลังจากที่แพ้ลิเวอร์พูล เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้พวกเขามีคะแนนนำอันดับสองอย่างแมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ 9 คะแนน ในขณะที่เหลือเกมการแข่งขันอยู่อีก 3 นัด ดังนั้น ถ้าได้ 1 คะแนนจากนัดนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะได้แชมป์ลีกเป็นครั้งที่สามในระยะเวลา 101 ปีจากการก่อตั้งสโมสร และจะเป็นการป้องกันแชมป์ลีก ได้เป็นครั้งที่ 11 ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอังกฤษ ครั้งที่ 5 ในพรีเมียร์ ลีก ซึ่งทีมที่สามารถป้องกันแชมป์พรีเมียร์ ลีก ได้ทั้ง 4 ครั้งก่อนหน้านี้คือแมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งหมด
แต่พวกเขาทำได้อย่างนั้น การคว้าแชมป์ครั้งนี้จะใช้เวลามากกว่าการคว้าแชมป์เมื่อปีที่แล้วอยู่ 1 นัด แต่จะเป็นสัปดาห์เดียวกับที่ทำได้ในฤดูกาลทีแล้วซึ่งพวกเขาได้แชมป์พรีเมียร์ ลีก ครั้งแรกในเกมที่พบกับโบลตัน ในวันที่ 30 เมษายน ปีที่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม หากเชลซี ต้องการที่จะทำลายสถิติคะแนนสูงสุดของพรีเมียร์ ลีก พวกเขาจำเป้นที่จะต้องชนะคู่แข่งให้ได้ทั้ง 3 นัดที่เหลือ เพื่อที่จะมีคะแนนมากกว่า 95 คะแนนที่ทำได้ในฤดูกาลที่แล้ว
ในการพบกับ 27 ครั้งในพรีเมียร์ ลีก เชลซี สามารถเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ด ในบ้านตัวเองได้ 8 ครั้ง เสมอ 11 ครั้งและแพ้คาบ้านไป 8 ครั้งจากที่พบกัน 27 นัด แต่ในสองนัดล่าสุดที่บ้านของเชลซี พวกเขาเอาชนะแมนฯ ยูไนเต็ดได้ทั้งหมด ซึ่งการพบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้วเป็นการพบกันในนัดเปิดฤดูกาลของพรีเมียร์ ลีก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะเดินทางไปเยือนถิ่งของเชลซี ในสถานการณ์ที่ยังไม่สามารถการันตีอันดับที่สองของตารางซึ่งจะได้เข้าไปเล่นในยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก โดยอัตโนมัติ แมนฯ ยูไนเต็ด มีคะแนนนำลิเวอร์พูล อยู่ 3 คแนน ในขณะที่ยังเหลือเกมการแข่งขันมากกว่าอยู่ 1 นัดรวมทั้งมีประตูได้เสียดีกว่าอยู่มาก ซึ่งพวกเขาต้องการ 3 คะแนนนับจากนี้ก็น่าจะรักษาอันดับที่สองไว้ได้อย่างแน่นอน ลูกทีมของเซอร์ อเล็กซ์ ไม่แพ้ใครติดต่อกันมา 11 นัด ส่วนสถิติในเกมเยือนนั้น พวกเขากำลังต้องการคว้าชัยชนะนอกบ้านให้ได้เป็นนัดที่ 6 ติดต่อกันให้ได้
ถึงเวลานี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีคะแนนมากกว่าคะแนนทั้งหมดที่พวกเขาสามารถเก็บมาได้ในฤดูกาลที่แล้วอยู่ 2 คะแนน ซึ่ง 79 คะแนนที่มีในขณะนี้มันเพียงพอแล้วที่จะคว้าแชมป์ลีก เมื่อปี 1998/99 รวมทั้ง 1996/97 ด้วย ซึ่งปี 96/97 นั้น พวกเขาทำเพียงแค่ 75 คะแนนก็คว้าถ้วยมาครองได้แล้ว แต่ฤดูกาลนี้มันไม่เป็นอย่างนั้น อย่างไรก็ตาม นี่อาจจะเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีที่แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถจบฤดูกาลได้ใน 2 อันดับแรกของตาราง ซึ่งก่อนหน้านั้น พวกเขาสามารถจบไม่อันดับ 1 ก็อันดับ 2 มา 9 ฤดูกาลแรกติดต่อกันของพรีเมียร์ ลีก เลยทีเดียว
ชัยชนะ 3-0 เมื่อ 20 เมษายน ปี 2002 เป็นเพียงครั้งเดียวในรอบ 7 นัดที่แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถบุกมาเยือนเชลซี แต่ในการมาเยือนครั้งนี้ พวกเขากำลังมองถึงการเอาชนะเชลซี ทั้งไปและกลับได้เป็นครั้งที่ 14 ในประวัติศาสตร์ที่เคยพบกันมาหลังจากที่ดาร์เรน เฟลทเชอร์ โหม่งประตูชัยได้ในเกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ซึ่งนั่นยังเป็นการหยุดสถิติไม่แพ้ใคร 40 นัดของเชลซีได้อีกด้วย
ฟอร์มการเล่นของทั้งสองทีม
เชลซี
แพ้ 1 นัดจาก 7 นัดล่าสุดในทุกรายการ
ไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ 4 นัดจาก 10 นัดล่าสุดทุกรายการรวมกัน
ทำคะแนนหล่นหายไป 4 คะแนนจาก 27 คะแนนล่าสุด
ชนะ 18 จาก 23 นัดในพรีเมียร์ ลีก
ชนะมากที่สุดและแพ้น้อยที่สุดในลีกฤดูกาลนี้
ทำประตูได้มากที่สุดและเสียน้อยที่สุดในพรีเมียร์ ลีก
ไม่สามารถทำประตูคู่แข่งได้ 4 นัดในฤดูกาลนี้ ในขณะที่แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่สามารถยิงได้ 3 นัด
ชนะ 57 และแพ้ 4 นัดภายใต้การคุมทีมของมูรินโญ่
เพิ่งจะเสมอ 0-0 เพียงแค่นัดเดียวจาก 40 นัดล่าสุดในพรีเมียร์ ลีก
แพ้มากกว่า 1 ประตูเพียงนัดเดียวจาก 93 นัดล่าสุดในพรีเมียร์ ลีก
ชนะ 24 นัดจาก 26 นัดในลีกที่สามารถยิงประตูคู่แข่งได้ก่อน
ชนะ 18 นัดจาก 19 นัดหากไม่เสียประตู
เสียมากกว่า 1 ประตูเพียงแค่ 3 เกมในพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้
ส่งนักเตะลงสนามเป็นจำนวนน้อยที่สุดในพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้
ยังไม่แพ้ในบ้านตัวเองในเกมลีก ฤดูกาลนี้
ชนะในบ้านมากที่สุดในพรีเมียร์ ลีก
ไม่แพ้มา 43 นัดในบ้านตัวเอง
ไม่เสียประตูในบ้าน 25 จาก 37 นัดใน 2 ฤดูกาลล่าสุด
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ชนะ 15 นัดจาก 18 นัดล่าสุดในพรีเมียร์ ลีก และฟุตบอลถ้วย
แพ้ 1 นัดจาก 13 นัดรวมทุกรายการ และไม่แพ้มา 10 นัดล่าสุด
แพ้ 1 นัดจาก 13 นัดในพรีเมียร์ ลีก และไม่แพ้มา 11 นัดล่าสุด
ทำคะแนนได้ 31 แต้มจาก 33 แต้มที่เป็นไปได้ล่าสุด
มีเพียงเชลซี เท่านั้นทีแพ้น้อยกว่าแมนฯ ยูไนเต็ด ฤดูกาลนี้
ในการลงเล่น 35 นัดมีประตูเกิดขึ้น 99 ประตู เฉลี่ยนัดละ 2.93 ประตู
สามารถทำประตูแรกในเกมได้ 23 นัดในพรีเมียร์ ลีก
ไม่เสียประตู 5 เกมจาก 8 เกมล่าสุดในลีก
ไม่สามารถทำประตูคู่แข่งได้ 3 นัดในพรีเมียร์ ลีก ฤดูกาลนี้ ซึ่งน้องที่สุดในพรีเมียร์ ลีก ทั้งสามนัดนั้นเป็นการเสมอ 0-0 ทั้งหมด
ทำประตูไม่ได้เพียงนัดเดียวใน 14 นัดล่าสุด
ยังคงเป็นทีมที่เล่นครึ่งแรกได้แข็งแกร่งที่สุดในพรีเมียร์ ลีก
ชนะรวดในการออกไปเยือน 5 นัดล่าสุดรวมทุกรายการ
ชนะรวดในการออกไปเยือน 5 นัดล่าสุดในพรีเมียร์ ลีก
ชนะนอกบ้านมากที่สุดในพรีเมียร์ ลีก
เกร็ดข้อมูลที่น่าสนใจ
เชลซี
แฟรงค์ แลมพาร์ดเป็นนักเตะที่ทำประตูได้มากที่สุดในทีมเชลซี โดยทำไป 20 ประตู ในขณะที่ฤดูกาลที่แล้วเขาทำได้ 19 ประตู กองกลางผู้นี้ยิงในพรีเมียร์ ลีก ไปแล้ว 16 ลูก ทำให้เขาสามารถทำลายสถิตินักเตะกองกลางที่ยิงประตูในพรีเมียร์ ลีก ได้มากที่สุดใน 1 ฤดูกาลที่เดิมมีไว้ที่ 14 ประตูได้แล้ว
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
รุด ฟาน นิสเตลรอย ยังตามหลังเธียร์รี่ อองรี ในการแย่งชิงตำแหน่งดาวซัลโวของพรีเมียร์ ลีก อยู่ 2 ประตู
ฟาน นิสเตลรอย กับรูนี่ย์ ทำประตูรวมกันในพรีเมียร์ ลีก ได้ 37 ประตูจาก 68 ประตูของทีม
ถ้าจอห์น โอเชีย ได้ลงสนาม จะเป็นการลงเล่นก่อนวันเกิดครบรอบ 25 ปีของเขา 1 วัน
ผลงานการพบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว
เชลซี 1 – 0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
15 สิงหาคม 2004
ผู้ตัดสิน : เกรแฮม โพลล์
ผู้ทำประตู : ไอเดอร์ กุดยอห์นเซ่น (น.15)
ผลงานการพบกันในนัดแรกของฤดูกาล
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1 – 0 เชลซี
6 พฤศจิกายน 2005
ผู้ตัดสิน : เกรแฮม โพลล์
ผู้ทำประตู : ดาร์เรน เฟลทเชอร์ (น.31)
ผลงานการพบกันทั้งหมด
ในลีก เชลซี ชนะ 35 นัด แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 54 นัด เสมอ 38 นัด
ในพรีเมียร์ ลีก เชลซี ชนะ 8 นัด แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 8 นัด เสมอ 11 นัด
ผลงานการพบกันที่สนามของเชลซี
ในลีก เชลซี ชนะ 18 นัด แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 29 นัด เสมอ 16 นัด
ในพรีเมียร์ ลีก เชลซี ชนะ 4 นัด แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 4 นัด เสมอ 5 นัด
boom